แม้ในปีนี้เราจะยังไม่มีโอกาสได้เล่น Vampire The Masquerade Bloodlines อันเนื่องมาจากการเลื่อนวางจำหน่ายเกม แต่สำหรับคนที่ติดตามเกมนี้มาตลอดจะรู้ว่าเส้นทางของเกมซีรีส์นี้นั้นไม่ได้ง่ายเลย ไม่ว่าจะด้วยปัญหาด้านการพัฒนา การตลาดและอีกมากมาย ซึ่งวันนี้เราจะมาดูกันว่า ภาคแรกของเกม RPG ในโลกของแวมไพร์นั้นต้องผ่านอะไรมาบ้างก่อนที่จะเดินทางมาถึงทุกวันนี้
Vampire The Masquerade สำหรับแฟนเกมเก่าๆ ชื่อ Troika Games อาจคุ้นเคยจากเกม RPG ในตำนานอย่าง Arcanum: Of Steamworks และ Magic Obscura พร้อมด้วยตัวละครและระบบเนื้อเรื่องที่เป็นที่ยอมรับ โลกอันแสนวิเศษเผยออกมาทั้งในบทและเรื่องราว ประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2544
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเพื่อนสามคน: Tim Cain, Leonard Boyarsky และ Jason Anderson ศิษย์เก่าของ Interplay ที่เคยทำงานในเกม RPG ในตำนานอย่าง Fallout อย่างไรก็ตาม หลังจากการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ภายในบริษัท พวกเขาตัดสินใจแยกตัวและเริ่มทีมพัฒนาเกมของตนเอง และเราได้สร้างสรรค์ผลงานอันมหัศจรรย์นี้ขึ้นมา
ภาพยนตร์เรื่องที่สอง Temple of Elemental Evil ในปี 2003 ก็ไม่ได้สร้างเช่นกัน แม้จะมีข้อบกพร่อง แต่ก็ยังเป็นเกม RPG สไตล์ D&D ที่ยอดเยี่ยม โครงการต่อไปจะมีความทะเยอทะยานมากยิ่งขึ้น มันเป็นวิดีโอเกมที่ดัดแปลงมาจากเกม RPG บนโต๊ะในตำนาน Vampire the Masquerade ซึ่งเป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในจักรวาล World of Darkness
Vampire The Masquerade Troika Games ที่ในตอนนั้นมีทีมอยู่ทั้งหมด 32 ชีวิตได้ทุ่มสุดตัวเพื่อสร้างสรรค์สุดยอดผลงานชิ้นนี้ให้ออกมาอย่างดีที่สุด โดยมีนายทุนเป็นค่าย Activision ที่คอยเตรียมจัดจำหน่ายเกมสู่ตลาด สิ่งที่น่าตื่นเต้นอย่างมากในตอนนั้นคือตัวเกมจะใช้เอนจิ้นกราฟฟิกสามมิติตัวใหม่อย่าง Source Engine ที่ถูกใช้กับเกมอย่าง Half-Life 2 ด้วย ทำให้ภาพของเกมที่ถูกปล่อยออกมาในตอนนั้นดูดีอย่างมหาศาล ทำให้หลายคนเชื่อว่านี่จะเป็นการยกระดับเกมแนว WRPG ให้มีมาตรฐานสูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
Vampire The Masquerade Bloodlines จะให้ผู้เล่นได้รับบทเป็นแวมไพร์หน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่โลกแห่งความมืดเป็นครั้งแรก ต้องหัดเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอดทั้งการพรางตัว ดื่มเลือดคน เรียนรู้พลังใหม่ และต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งครั้งใหญ่ของตระกูลแวมไพร์ต่าง ๆ ที่กำลังก่อตัวเป็นสงครามขนาดใหญ่ และเราก็กลายเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะชี้เป็นชี้ตายในสงครามครั้งนี้ด้วย
หากเราดูจากพลอตเรื่องของเกมจะเห็นได้ว่ามันน่าสนใจไม่น้อยในยุคนั้น ตัวเอกที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก และกลายมาเป็นผู้ชี้ขาดในสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ แถมตัวเลือกในการจบเควสก็มีหลายแบบทั้งการใช้วาทศิลป์ ใช้พลังสะกดจิตหรืออื่น ๆ ทำให้ก่อเกิดเป็นฉากจบของเกมหลายแบบ และที่น่าสนใจคือแวมไพร์แต่ละตระกูลก็มีลูกเล่นน่าสนใจแตกต่างกันออกไปอีกด้วย
แต่น่าเสียดายที่เกมเปิดตัวมาได้ไม่สวยงามอย่างที่คิด
Vampire The Masquerade แม้ Troika Games จะมีฝีมือในเรื่องของการวางเนื้อเรื่องและระบบการเล่น แต่สิ่งที่พวกเขาพลาดคือการขัดเกลาตัวเกมที่ถูกละเลยในหลายส่วน Bug ของเกมมหาศาลจนแก้กันไม่หวาดไม่ไหว แม้ทุกคนในทีมจะพยายามกันอย่างเต็มที่ แต่ก็เพราะความไม่คุ้นเคยในเอนจิ้นตัวใหม่อย่าง Source ที่ทำให้ทุกอย่างพินาศไปหมด แถมซ้ำร้ายก่อนที่ตัวเกมจะถูกวางจำหน่าย Valve บริษัทเจ้าของเอนจิ้นก็ถูกแฮกเกอร์โจมตีล้วงข้อมูลสำคัญไปจนต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายเกมที่ใช้ Source Engine ทั้งหมดออกไปด้วย ซึ่งก็ทำให้ทีมงานทำงานได้ยากขึ้นกว่าเดิมไปอีก
แน่นอนว่าเกมจะขายดีขนาดนี้ได้ยังไงในเมื่อทุกอย่างวุ่นวายไปหมด? Vampire The Masquerade Bloodlines เปิดตัวในสัปดาห์แรกและขายได้เพียง 80,000 ชุดในสัปดาห์แรก โดยทั่วไปแล้ว บทวิจารณ์ตามสื่อต่างๆ นั้นดี แต่ทุกคนก็เห็นพ้องกันว่ามีข้อบกพร่องที่สำคัญและร้ายแรงในเกมที่อาจทำให้ไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ แม้ว่าเราจะพูดถึงเกม แต่ระบบเกมก็ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้ทำให้เกมไม่โดดเด่นเท่าที่ควร
และในที่สุด Troika Games ก็ต้องปิดตัวลงเนื่องจากขาดยอดขาย
แม้ว่ายอดขายจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่เกมจะพัง แต่กลุ่มผู้เล่นที่รักเกมนี้จะไม่ทิ้งมันไว้ตามลำพังและได้รวมตัวกันเพื่อสานต่อความยิ่งใหญ่ของมันและนำเกมกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งด้วยแพตช์ชุมชนที่เรียกว่า VTMB Unofficial Patch ที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับบิลด์ เพิ่มเนื้อหาที่ถูกตัดออกจากตัวเกมหลัก ทำให้เกมของคุณเป็นอัญมณีที่สวยงามและเป็นประกายในท้ายที่สุด และได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้
Vampire The Masquerade Bloodlines เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของเกมที่แม้แต่ทีมพัฒนาก็เสียชีวิต แต่ชุมชนผู้เล่นที่ภักดียังคงรับประกันว่าเกมจะไม่มีวันหายไปจริงๆ
ในความเป็นจริง ทีมพัฒนา Unofficial Mod ใช้เวลากว่า 10 ปีในการพัฒนาและปรับปรุงเกม คุณเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นเกมใหม่ และพวกเขาไม่ต้องการส่วนสำคัญของมัน ของเกมก็จางหายไปตามกาลเวลาเช่นกัน ดังนั้นคุณจึงพยายามทำให้เกมก้าวไปข้างหน้า นี่เป็นสิ่งที่ดีมาก ใครที่อยากเล่นในช่วงแรกของงานนี้น่าจะพอใจ